สถานการณ์ของสงคราม
แนวรบด้านตะวันออก
รัสเซียส่งกองทัพเข้าโจมตีเยอรมันและออสเตรีย-ฮังการี ระยะแรกรัสเซียชนะ แต่หลังจาก ค.ศ 1915 รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้ เยอรมันจึงยึดครองเมืองวอร์ซอและเมืองวิลนาในโปแลนด์ ทำให้ทหารรัสเซียตายและบาดเจ็บกว่า 1 ล้านคน รัสเซียพยายามสู้รบอีกในปี ค.ศ 1916 แต่ก็พ่ายแพ้อีก
แนวรบด้านตะวันตก
กองทัพเยอรมันได้บุกผ่านประเทศเบลเยียมอย่างรวดเร็วตามแผนชลีฟเฟิน เพื่อโจมตีฝรั่งเศส แต่ได้รับการต่อต้านจากฝ่ายสัมพันธมิตรจนไม่สามารถรุกต่อไปยังกรุงปารีสได้ กองทัพทั้งสองฝ่ายได้ตั้งทัพกันอยู่เป็นเวลา 3 ปี
แนวรบด้านบอลข่าน
กองทัพออสเตรีย-ฮังการีไม่สามารถเอาชนะเซอร์เบียได้ เมื่อตุรกีและบัลแกเรียเข้ามาช่วยฝ่ายมหาอำนาจกลาง ค.ศ 1915 กองทัพฝ่ายมหาอำนาจกลางก็สามารถเข้ายึดครองประเทศเซอร์เบีย แอลเบเนีย และ
มอนเตเนโกรได้ในเวลาต่อมา
แนวรบทางทะเล
กองทัพเรืออังกฤษสามารถเอาชนะกองทัพเยอรมั แน และตัดขาดเส้นทางคมนาคมทั้งในมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้สำเร็จ ต่อมาเยอรมนีหันไปใช้เรือดำน้ำทำลายเรือรบและเรือสินค้ารอบๆ เกาะอังกฤษ ใน ค.ศ 1915 เรือดำน้ำจมเรือกลไฟฝรั่งเศสชื่อ ซัสเซก ส่งผลให้ ชาวอเมริกันที่โดลสารมาเสียชีวิต สร้างความไม่พอใจให้แก่สหรัฐอเมริกามากจึงเข้าช่วยฝ่ายสัมพันธมิตร ประกาศสงคราม เมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ 1917
การเข้าร่วมสงครามของสหรัฐอเมริกา
หลังจากอเมริกาประกาศสงครามกับเยอรมนีแล้วส่งทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ทางบก เรือ และอากาศ เรือ และอากาศร่วมรบและสามารถปราบเรือดำน้ำได้ผลดี ค.ศ 1918 รัฐบาลอเมริกาได้เพิ่มกำลังทหารเข้าไปในยุโรปกว่า
1 ล้านคน และได้รับชัยชนะที่แม่น้ำมาร์น
ครั้งที่ 2 เยอรมันเริ่มล่าถอยส่วนประเทศพันธมิตรของเยอรมนี ได้แก่ ออสเตรีย-บัลแกเรีย และตุรกีเริ่มพ่ายแพ้ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ 1918 ออสเตรีย-ฮังการีแยกเป็น 2 ประเทศ ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ 1918 เยอรมนีลงนามในสัญญาสงบศึก สงครามโลกครั้งที่ 1 จึงได้ยุติลง
ผลของสงคราม
1.ทางด้านสังคม
มีทหารเข้าร่วม 65 ล้านคน ทหารเสียชีวิตประมาณ 8.6 ล้านคน บาดเจ็บมากกว่า 20 ล้านคน พิการตลอดชีพ 7ล้านคน การสูญเสียครั้งสำคัญ คือ ยุทธการที่แวร์เดิง และยุทธการที่ซอม สูญเสียชีวิตพลเรือนนับล้านคน สงครามครั้งนี้ทำให้เกิดปัญหาชนพลัดถิ่น ปัญหาผู้บาดเจ็บและทุพพลภาพเป็นจำนวนมาก
2.ทางด้านการเมือง
ยุโรปอ่อนแอลงประเทศมหาอำนาจกลาง เช่น เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี และตุรกี ซึ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามต้องล่มสลายลงโดยต้องเสียอาณานิคม ดินแดนในครอบครอง และถูกลดกำลังทหารและอาวุธลง ประเทศที่ชนะสงครามประสบปัญหาเช่นกัน สมรภูมิรบอยู่ในยุโรป และเป็นผลให้เกิดมหาอำนาจใหม่นาจขึ้น คือ สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
3.ทางด้านเศรษฐกิจ
สงครามครั้งนี้ต่างทุ่มทุนอย่างมหาศาลเพื่อผลิตอาวุธใหม่ๆ เช่น ปืนใหญ่ ปืนกล เรือรบ เครื่องบิน ระเบิด รถถัง เรือดำน้ำ แก๊สพิษ เพราะหวังจะได้รับชัยชนะจากการทำลายล้างโดยอาวุธเหล่านี้ นอกจากนี้ประสงค์ต่อชีวิตข้าศึกแล้วยังสร้างความเสียหายแก่สถานที่และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ส่วนฝ่ายแพ้สงครามต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม แม้แต่ฝ่ายที่ชนะสงครามก็ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูผู้ประสบภัยพิบัติจากสงคราม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น